ฟันคุดแบบไหนไม่ต้องผ่า - An Overview
ฟันคุดแบบไหนไม่ต้องผ่า - An Overview
Blog Article
อย่างไรก็ตาม ทันตแพทย์เป็นผู้ที่สามารถวินิจฉัยได้อย่างถูกต้องว่าฟันคุดของแต่ละคนจำเป็นต้องผ่าหรือไม่
ฟันคุดแบบไหนไม่ต้องผ่า คุณหมอตอบอย่างไร?
กรณีที่ต้องผ่าฟันคุดเกิดจากฟันคุดอยู่ลึกลงไปใต้เนื้อเยื่อของเหงือก หรือฟันงอกขึ้นมาบางส่วนแต่มีลักษณะนอน ไม่ตั้งตรง ไม่สามารถดึงขึ้นมาได้ กรณีนี้ทันตแพทย์มักใช้วิธีผ่าเหงือก และอาจมีการตัดผ่าแบ่งฟันออกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วค่อยคีบนำฟันออกมาจากเบ้าฟัน
หมายเหตุ กรุณาสอบถามราคากับทันตแพทย์ที่คลินิกอีกครั้ง
ก่อนที่เราจะตัดสินใจว่าผ่าหรือไม่ผ่า ควรรู้ก่อนว่าฟันคุดเป็นแบบไหน ฟันคุดของเราขึ้นในลักษณะใด เป็นฟันคุดที่ขึ้นยังไม่เต็มที่ ขึ้นเต็มที่แล้ว หรือขึ้นแบบเฉียงๆ ซึ่งหากเป็นฟันกรามซี่ในสุดที่ขึ้นได้ไม่เต็มที่หรือขึ้นได้บางส่วนต้องทำการผ่าออกเพื่อป้องกันปัญหาช่องปากที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ส่วนใหญ่ฟันคุดมักจะทำให้เกิดปัญหาในช่องปากต่างๆ เช่น ฟันอักเสบหรือมีการติดเชื้อ โรคเหงือก ถุงน้ำในบริเวณขากรรไกร หรือฟันผุด้านข้าง ดังนั้นแพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำว่าควรผ่าฟันคุดออก เพื่อป้องกันหรือแก้ไขปัญหาเหล่านี้
โดยทั่วไป ทันตแพทย์จะแนะนำให้ผ่าฟันคุดในกรณีดังต่อไปนี้:
วิธีทำความสะอาดหลังผ่าฟันคุด สามารถทำได้ดังนี้
ฟันคุดหรือฟันกรามซี่สุดท้าย จำเป็นต้องมีการถอน ฟันคุดแบบไหนไม่ต้องผ่า หรือผ่าออก โดยทันตแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมช่องปาก เพราะว่าอยู่ในลักษณะที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ หรือไม่ได้อยู่ในแนวที่เดียวกับฟัน ส่วนมากฟันคุดจะเกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่นตอนปลาย หรือช่วงอายุยี่สิบต้นๆ หากปล่อยฟันคุดไว้จะมีความเสี่ยงต่อภาวะต่างๆ
โรคไต อันตรายกว่าที่คิด ภัยเงียบที่คนไทยป่วยไม่รู้ตัว ข้อมูลสุขภาพ, บทความทางการแพทย์, บทความแนะนำ
ดูเพิ่มเติม เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
แต่ถ้าฟันกรามซี่สุดท้ายนั้นแม้จะขึ้นได้ แต่อยู่ในตำแหน่งที่ทำความสะอาดยาก หรือมีฟันผุ ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวมักจะอุดฟันยาก หากคนไข้มีฟันกรามซี่อื่นครบ ทันตแพทย์อาจแนะนำถอนฟันกรามซี่สุดท้าย ด้วยการถอนเหมือนฟันปกติ
อาหารแข็งหรือเหนียว เช่น เนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ ผักแข็ง ผลไม้เปลือกแข็ง ถั่ว ขนมปังกรอบ
ความเร็วในการฟื้นตัวของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน เพราะเคสผ่าตัดแต่ละเคสมีความซับซ้อนไม่เหมือนกัน รวมถึงสุขภาพโดยทั่วไปของคนไข้แต่ละคนด้วย ทางที่ดีที่สุดคือค่อยๆ รับประทานอาหารที่แข็งขึ้นทีละนิด ให้พอเท่าที่ร่างกายรับไหวจะดีกว่า